จำนวนเฉพาะ คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัว คือ 1 และตัวมันเองเท่านั้น
เช่น 2,3,5,7,11,13,17,19,...
ข้อควรรู้
- 1 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ เพราะ 1 มีตัวประกอบเพียงหนึ่งตัว คือ ตัวมันเอง
- 2 เป็นจำนวนนับที่เป็นจำนวนเฉพาะที่น้อยที่สุด และเป็นจำนวนคู่เพียงตัวเดียว
- จำนวนนับที่มากกว่า 1 และไม่เป็นจำนวนเฉพาะจะเป็นจำนวนประกอบ
สอนคณิตศาสตร์ ม.1
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556
วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556
จำนวนนับ
จำนวนนับจำนวนนับ คือ จำนวนที่นับสิ่งของต่างๆ เช่น 1, 2, 3,.....
จำนวนนับแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. จำนวนคู่ คือ จำนวนที่หารด้วย 2 ลงตัว เช่น 2, 4, 6,.........
2. จำนวนคี่ คือ จำนวนที่หารด้วย 2 ไม่ลงตัว เช่น 1, 3, 5,.....
ข้อควรรู้
- 0 เป็นจำนวนคู่
- จำนวนคู่±จำนวนคู่ = จำนวนคู่
- จำนวนคี่±จำนวนคี่ = จำนวนคู่
- จำนวนคู่×จำนวนคู่หรือจำนวนคี่ = จำนวนคู่
- จำนวนคึ่×จำนวนคี่ = จำนวนคี่
จำนวนนับแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. จำนวนคู่ คือ จำนวนที่หารด้วย 2 ลงตัว เช่น 2, 4, 6,.........
2. จำนวนคี่ คือ จำนวนที่หารด้วย 2 ไม่ลงตัว เช่น 1, 3, 5,.....
ข้อควรรู้
- 0 เป็นจำนวนคู่
- จำนวนคู่±จำนวนคู่ = จำนวนคู่
- จำนวนคี่±จำนวนคี่ = จำนวนคู่
- จำนวนคู่×จำนวนคู่หรือจำนวนคี่ = จำนวนคู่
- จำนวนคึ่×จำนวนคี่ = จำนวนคี่
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556
จำนวนเต็ม
จำนวนเต็ม
เมื่อเราพิจารณาบนเส้นจำนวน จะเห็นว่าจำนวนเต็มบวกหรือจำนวนนักบ ได้แก่ 1,2,3,4,...
จำนวนเต็มลบได้แก่ -1, -2, -3, -4,... และศูนย์ ซึ่งไม่เป็นจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบ
จำนวนเต็มบวก หมายถึง จำนวนนับ ตั้งแต่ 1 และเพิ่มทีละหนึ่ง เป็นต้นไปไม่สิ้นสุด ได้แก่ 1,2,3,4,... ดังนั้น 1 จึงเป็นจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดและจำนวนเต็มบวกอื่นๆ เนื่องจากเมื่อกำหนดจำนวนเต็มบวกใดๆ เราสามารถหาจำนวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า และอยู่ถัดไปด้วยการบวกด้วย 1 ดังนั้นจึงไม่สามารถหาจำนวนเต็มบวกที่มีค่ามากที่สุดได้
ศูนย์ เราทราบแล้วว่า 1 เป็นจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุด ถ้าพิจารณาจำนวนจำนวนหนึ่งซึ่งมีค่าน้อยกว่า 1 และอยู่ห่างจาก 1 เป็นระยะทาง 1 หน่วย จะได้จำนวนเต็มจำนวนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า จำนวนเต็มศูนย์ หรือเรียกย่อๆ ว่า ศูนย์และเขียนแทนด้วย 0
สรุป
1. จำนวนเต็มบวก หมายถึง จำนวนนับ ตั้งแต่ 1 และเพิ่มทีละหนึ่ง เป็นต้นไปไม่สิ้นสุด ได้แก่ 1,2,3,4,...
2. จำนวนเต็มศูนย์ คือ จำนวนที่อยู่ห่างจาก 1 เป็นระยะทาง 1 หน่วยและมีค่าน้อยกว่า 1 ถ้าพิจารณาเส้นจำนวนจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 0 กับ -1
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมการ
1) ครูเล่าเหตุการณ์ประทับใจของครูให้นักเรียนฟัง ดังนี้ "หลายปีมาแล้วในช่วงที่ราคาอาหารมือกลางวันยังจานละ 10 บาท นักเรียนชั้น ม. 6 คนหนึ่งเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ปรากฏว่าเป็นกระเป๋าสตางค์น้องชั้น ม. 1 น้องบอกว่าเป็นเงินอาหารมื้อกลางวันทั้ง 5 วัน ถ้าไม่พบกระเป๋าสตางค์เขาจะอดทานอาหารไป 5 วัน เพราะคุณแม่ให้มาพอดี ท่านผู้อำนวยการให้รางวัลกับพี่ชั้น ม. 6 เป็นจำนวนเงินมากกว่าที่เก็บได้อยู่เป็นจำนวน 200 บาท ผลปรากฏว่าพี่ ม. 6 แบ่งเงินรางวัลให้กับน้อง ม. 1 คนละครึ่ง เพื่อน้อง ม. 1 จะได้มีเงินเป็นค่าขนมด้วย หลังจากวันนั้นพี่ ม. 6 คนนั้นจะมาคอยดูแลน้อง ม. 1 คนนี้ตลอด ไม่ว่าจะพาไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงขนม หรือดูแลการบ้านให้เหมือนกับเป็นพี่เลี้ยงจนกระทั่งจบชั้น ม. 6 ไป"
2) ครูอาจแทรกการอบรมการมีน้ำใจและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตามความเหมาะสม แล้วครูตั้งคำถามว่า เงินที่ท่านผู้อำนวยการให้รางวัลกับพี่ ม. 6 เป็นเงินจำนวนเท่าไร จากสถานการณ์ที่เล่ามาตระหนักถึงความสมเหตุสมผลจะได้สมการ ดังนี้
x - (5 วัน 10 บาท) = 200 บาท
x – 50 = 200 บาท
ครูให้นักเรียนช่วยกันหาคำตอบว่าพี่ ม. 6 ได้รับเงินเป็นจำนวนเท่าไร แล้วเมื่อแบ่งให้น้องคนละครึ่ง จงหาผลสุดท้ายพี่ ม. 6 ได้เงินรางวัลเป็นจำนวนเท่าไร และน้อง ม. 1 จะมีเงินทั้งหมดเท่าไร ครูแนะนำให้นักเรียนเห็นประโยชน์ของสมการว่าสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยการเปลี่ยนประโยคภาษาเป็นประโยคสัญลักษณ์ในรูปของสมการ
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)